วางผังบ้านรับลมหลบแดด
แสงแดดยามเช้า สายลมพัดอ่อนๆมาในห้องนั่งเล่น ความร่มรื่นยามบ่ายที่จะหาที่ใดเสมอเหมือนได้นอกจาก บ้าน เราจะจัดวางผังบ้านอย่างไรให้ได้รับลมสำหรับการระบายความร้อนและการหมุน เวียนที่ดีของอากาศภายในบ้าน รวมทั้งการหลบแดดยามบ่ายที่แสงตะวันร้อนแรงและต้อนรับรุ่งอรุณของวันใหม่ ด้วยแสงแดดอ่อนๆยามเช้า ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป ไม่ว่าบ้านเราจะปลูกสร้างมานานแล้ว หรือกำลังเตรียมสร้างบ้านในอนาคตอันใกล้ ขอเพียงแต่ให้เรารู้ทิศทางของที่ตั้งของบ้านเราเท่านั้น ด้วยการใช้เข็มทิศตรวจดูว่าทิศเหนือ-ใต้อยู่ทางใดของที่ตั้ง เราสามารถจัดวางผังบ้านลงไปให้รับลมและหลบแดดได้ดีที่สุด ดังนี้
ลักษณะบ้าน พยายามจัดแปลนบ้านให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามากที่สุด ถ้ายิ่งมีอัตราส่วนระหว่างความกว้าง : ความยาวเป็น 1 : 3 ได้ก็ยิ่งดีครับ ตามเกณฑ์การรับลมหลบแดด วางบ้านรับลม โดยวางด้านยาวของบ้านตามแนวเหนือใต้ และเปิดช่องหน้าต่างตามแนวทิศทางนี้ให้มากที่สุด เนื่องจากประเทศไทยเรามีทิศทางของลมประจำฤดูกาลอยู่สองทิศทาง คือ ในช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม มีลมมรสุมฤดูหนาวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและในช่วงเดือน กุมภาพันธ์-มิถุนายน มีลมมรสุมฤดูร้อนพัดมาทางทิศใต้และตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ซึ่งอากาศมีความชื้นสูง จะมีลมฝนพัดมาทางทิศใต้และตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งอากาศมีความชื้นสูง จะมีลมฝนพัดมาทางทิศใต้และตะวันตกเฉียงใต้ อิทธิพลของทิศทางลมนี้มาจากลมมรสุมที่พัดสู่ดินแดนทวีปเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้นั่นเอง บ้านเรือนในกรุงเทพฯจึงควรหันหน้ารับลมในแนวเหนือ-ใต้เพื่อความเย็นสบายภาย ในบ้าน
นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยในการออกแบบสำหรับที่ตั้งแต่ละแห่งที่ทำให้ทิศทางลม เปลี่ยนแปลงไป เช่น มีอาคารสูงตั้งอยู่ใกล้ๆ หรือบริเวณนั้นมีบ้านเรือนหนาแน่นแบบหลังคาชนกัน ก็มีผลทำให้ลมที่พัดผ่านที่ตั้งของบ้านเราเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจำเป็นที่เจ้าของบ้านควรจะได้เก็บข้อมูลรายละเอียดเหล่านี้ไว้คุยกับ สถาปนิกนะครับ ห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นห้องที่เรามักจะใช้เวลาอยู่ครั้งละนานๆในเวลากลางวันก็ ควรจัดให้อยู่ในทิศเหนือ ห้องครัวควรหันหน้ารับลมด้วยเพื่อการระบายกลิ่นและควันเช่นอยู่ทางทิศใต้ แต่ต้องระวังไม่ให้ลมพัดจากห้องครัวพากลิ่นไปสู่ห้องอื่นๆภายในบ้าน ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับรายละเอียดในการออกแบบ ล้อมกรอบ หน้าต่างลักษณะต่างๆ
วางบ้านหลบแดด ส่วนด้านแคบของบ้านควรหันให้อยู่ในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก เพื่อให้ผนังของบ้านเราถูกแดดน้อยที่สุด ยิ่งถ้าเรามีเฟอร์นิเจอร์ที่ติดกับฝาผนังสูงจากพื้นถึงเพดาน เช่น ตู้เสื้อผ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ชุดครัว ก็ควรจะติดตั้งทางทิศตะวันตก เพราะจะช่วยเพิ่มความหนาของผนังทำให้ภายในห้องเย็นสบายขึ้น และทางทิศนี้ควรมีหน้าต่างน้อยที่สุด
แดดยามเช้าทำให้เกิดพลังหมุนเวียนภายในร่างกาย ห้องนอนที่มีแสงแดดอ่อนๆในยามเช้าก็จะช่วยให้สุขภาพพลานามัยแข็งแรง ทิศเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับห้องนอน โปรดอย่าลืมชายคาบัง-ฝนสำหรับหน้าต่างทางทิศตะวันออก เพราะยามสายแสงแดดจะร้อนแรงขึ้น ห้องนอนจะสะสมความร้อนไว้มากเกินไป
ทิศตะวันตก แสงแดดจะแรงมากในช่วงเวลา 14.00 – 16.00 น. ถ้าบ้านเรามีส่วนยาวของบ้านหันมาทางทิศนี้ ก็ต้องหาทางหลบแดดด้วยชายคาที่ยาว เพื่อให้ผนังถูกแดดน้อยลง แม้ว่าเราจะมีช่องหน้าต่างน้อยก็ตาม มิฉะนั้น ความร้อนที่สะสมไว้ที่ผนังจะแผ่รังสีมาทำให้ภายในห้องร้อนอบอ้าว โบราณท่านว่า “อย่าปลูกเรือนขวางตะวัน” ก็ด้วยประการฉะนี้ครับ
วิธีแก้ไขปัญหา ถ้าบ้านเราสู้แดด-หลบลม เพราะเหตุจำเป็น เนื่องจากการสร้างบ้านสมัยนี้ต้องว่ากันตามทิศทางของถนนทางเข้าบ้านเป็นหลัก ซึ่งเจ้าของบ้านบังคับทิศทางเองไม่ได้ ดังนั้น การทำให้บ้านอยู่สบายในเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปตามทิศทางของที่ตั้งบ้าน ก็พอจะกล่าวโดยสังเขป ดังนี้
ถ้าบ้านหันด้านยาวไปทางทิศตะวันตก การทำช่องหน้าต่างด้านนี้ ก็จำเป็นเพื่อการระบายความร้อนอบอ้าวออกจากบ้านด้วยวิธีธรรมชาติ แต่ควรมีชายคาคลุมผนังและช่องหน้าต่างด้านนี้ให้ยื่นยาว ระเบียงตามแนวตัวบ้านทิศตะวันตกพร้อมชายคาคลุมที่ฝรั่งเรียกว่า วารันด้า (veranda) และการทำมุขยื่นตรงประตูทางเข้าบ้านพร้อมหลังคาคลุม (porch) ก็จะช่วยให้ทางเข้าดูร่มรื่น-หลบแดด เป็นการต้อนรับเข้าสู่บ้านสำหรับบ้านที่หันทิศทางสู้แสงแดดแรงกล้าได้อย่าง ไม่เคอะเขิน เทอเรซ (terrace) ลานเปิดโล่งพร้อมพื้นผิวดูดความร้อนได้ดี เช่น หินแกรนิต จะทำให้ความร้อนสะท้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ควรให้มีหลังคา-ชายคาคลุมลานทิศนี้ไว้ดีที่สุด กระเบื้องดินเผาจะช่วยลดการสะท้อนของความร้อนได้บ้าง
ทิศใต้ตรงกับหน้าบ้าน ในฤดูหนาวแสงแดดจะย้อนเข้ามาทางหน้าต่างหากชายคาสั้น และถ้ามีระเบียง พื้นระเบียงจะสะสมความร้อนไว้ทำให้ยามบ่ายภายในห้องทิศนี้ร้อนอบอ้าว การแก้ปัญหาก็เช่นเดียวกัน คือ ทำชายคาให้ยื่นยาว หรือใช้อุปกรณ์บังแดดในลักษณะต่างๆติดที่หน้าต่างหรือชายคา
ทิศตะวันออกตรงกับทางเข้าบ้าน แม้อยากจะได้แสงแดดตอนเช้า แต่พอบ่ายก็รู้สึกร้อนอ้าว เพราะความร้อนสะสมในช่วงเช้า การใช้ชายคาคลุมจะได้ผลดีที่สุด
นอกจากนี้แล้ว การทำรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ เช่น การใช้มู่ลี่ ผ้าม่านบังแดดภายใน การใช้สีสว่างทาบ้าน และการติดตั้งฉนวนกันความร้อนสำหรับผนังทิศตะวันออกและตะวันตก ก็จะช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้านได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการจัดวางแปลนห้องและงบประมาณในการปรับปรุงบ้าน ให้เย็นสบายของแต่ละบ้านนั่นเอง
วันนี้